วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554

ผลงานน้องอัลฟ่า1


ไดโนเสาร์ออกไข่หรือ ?
ใช่แล้วจ้ะ  ไดโนเสาร์ คือสัตว์ที่ออกลูกเป็นไข่
เช่นเดียวกับสัตว์เลื้อยคลานทุกวันนี้คุณแม่ไดโนเสาร์
วางไข่ของเธอเอาไว้ในรังบนพื้นดิน  ไข่ไดโนเสาร์
มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน บางชนิดมีรูปร่าง
เกือบกลม บางชนิดรูปร่างยาวและบาง
จาก   อัลฟ่า 
วันนี้   (วัน   พฤหัสบดี   เดือน   สิงหาคม) 
ไม่รู้ว่าทำไมน้องถึงร้องไห้โดยที่หนูไม่ได้ทำ ถามก็ไม่ตอบถาม ถาม ถาม และถามตั้งหลายครั้งหลายหนแต่ก็ไม่ตอบแถมน้องยังตีหัวตัวเองอีกด้วย หนูก็ได้แต่ปลอบใจ จนในที่สุดน้องก็ตอบว่าดำกาน หนูกว่าจะคิดออกว่าดำกานแปลว่าอะไรหนูคิดนานเลยเชียว แต่ตอนที่หนูคิดน้องก็หยุดร้องไห้ พอหนูลุก  น้องก็ร้องไห้ต่อแล้วหนูก็เคาะโต๊ะให้เหมือนคนเคาะประตู หนูเคาะโต๊ะได้เหมือนคนเคาะประตูจริง จริงเลย แล้วน้องก็หยุดร้องไห้ลุกขึ้นไปเปิดประตูและหันหน้ามาหาหนูแล้วพูดว่า ไม่มีคนเลย ต่อจาก  นั้นน้องก็นอนหลับปุ๋ยเหมือนเทเลทับบีสเลย  
           (เรื่องจริงทั้งหมด  พิมพ์ไว้ให้แม่จ๋า,ป๊ะป๋าดู

วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554

อยู่อย่าง"อินทรีย์" หรือจะปล่อยให้ชีวิต "ตาย" ไปซะ!!ที่มา:มติชนออนไลน์03/04/11










คำมั่นสัญญา


ผมได้ฟังเพลง"คำมั่นสัญญา"...ซึ่งขับร้องโดยคุณธงไชย แมคอินไตย
      เพลงนี้เพราะมาก ลองฟังแล้วอ่านตามสิครับ
       "ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
 ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
 แม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร
 ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา
 แม้นเนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ
 พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
 แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา
 เชยผกาโกสุมปทุมทอง
 แม้เป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงษ์
  จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง
 ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง
 เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป... "
      รู้ไหมครับ..เพลงนี้มาจากไหน ...
      คำตอบก็คือ"พระอภัยมณี" โดยนำมาจากตอน"ศึกนางละเวงวัณฬา" นั่นคือ เมื่อพระอภัยมณี สามารถชนะนางละเวงวัณฬาได้ทั้งศึกรบและศึกรัก โดยดัดแปลงถ้อยคำบางวรรคนัยว่าเพื่อให้สามารถเรียบเรียงทำนองได้อย่างเหมาะสมเช่น
"เจ้าเป็นถ้ำอำไพขอให้พี่ เปลี่ยนเป็น แม้เป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงษ์
เป็นราชสีห์สิงสู่เป็นคู่สอง เป็น จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง จากราชสีห์กลายเป็นหงษ์ไปเลย
จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็น  ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง
เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป ตัวนี้คงเดิม "
      "นางละเวง" หรือ"ละเวงวัณฬา" เป็นธิดาของเจ้าลังกา      เป็นตัวละครที่"สุนทรภู่"เขียนขึ้นให้แตกต่างกับตัวละคร(หญิง)อื่นๆใน"พระอภัยมณี" ที่เป็นกุลสตรีที่ละเมียดละไมอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนในวัง หรืออยู่ในสภาพตกใจง่าย หากแต่นางเป็นหญิงสาวผู้กล้าหาญ ฉลาด เจ้าเล่ห์ และมีฝีมือในการรบทัพจับศึก แถมใจเด็ด
      ละเวงวัณฬา เปิดตัวในสุดยอดวรรณกรรมเรื่อง"พระอภัยมณี"ในฐานะศัตรูคู่อาฆาตกับ"นางสุวรรณมาลี"และ"พระอภัยมณี" เพราะนางสุวรรณมาลี ราชธิดาของท้าวสิลราช เจ้าเมืองผลึก สลัดรักอุศเรน พระเชษฐาของนางละเวง  
      เพราะถูกแย่งคนรัก อุศเรนจึงยกทัพไปทำสงครามกับเมืองผลึก แต่เกิดพลาดท่าถูกพระอภัยมณี ที่เป็นคนรัก(ใหม่)ของนางสุวรรณมาลีจับเป็นเชลย ทำให้เจ้าลังกา พระบิดาของอุศเรนและนางละเวง ตรอมพระทัยสวรรณคต
      "ละเวงวัณฬา" จึงขึ้นครองเมืองลังกาในวัยเพียง 16 พรรษา!!!
(ภาพนี้ตอนเรียนระดับมัธยมมีคุณครูภาษาไทยท่านหนึ่งให้นักเรียนสร้างภาพนางละเวงจากจินตนาการผมก็ไปขอให้รุ่นพี่ผู้มีฝีมือวาดให้สวยมากเสียดายไม่ได้สำเนาไว้...)
ภาพจากเวบธรรมะไทย..เขียนขึ้นจากจินตนาการตามบทประพันธ์
      ภารกิจแรกของนางคือ"ล้างแค้น"ให้พระบิดาและพระเชษฐา !!!      "ละเวงวัณฬา" จึงให้ช่างวาดเขียนภาพนางด้วยการใช้สีผสมยาเสน่ห์ แล้วส่งไปตามเมืองต่างๆ พร้อมประกาศว่าใครช่วยนางรบชนะพระอภัยมณี นางจะเลือกเป็นคู่อภิเษกสมรส
      บุคคลแรกที่มาเจอรูปนางละเวงคือ "เจ้าละมาน" กษัตริย์พ่อหม้าย ที่เมื่อเห็นรูปนางละเวงก็รีบยกทัพไปทำสงครามกับพระอภัยมณี แต่กลับพลาดท่าแพ้ต่อพระอภัยมณี
      ภาพวาดที่งดงามของนางละเวงจึงย้ายจากมือเจ้าละมานไปอยู่ในมือพระอภัยมณี
      และพระอภัยมณีก็หลงรักนางละเวงทันทีที่เห็นภาพ !!!
      เมื่อ"พระอภัย"จะรบกับนางละเวง ได้จัดทัพถึง 9 กองทัพ(น่าจะได้เค้าโครงจากมหาสงครามในสมัยรัชกาลที่๑คือสงครามเก้าทัพ)ในการบุกกรุงลังกา คือ ทัพวิลยา ชวา ฉวี ละเมด มลิกัน สำปันหนา กะวิน จีนตั๋ง และอังกุลา ก็น่าจะจบ
      แต่ปัญหาก็คือ ทั้งพระอภัยและนางละเวง ต่างก็ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน ทั้งที่ต่างก็มีความหลังที่จะแก้แค้นต่อกัน
      พระอภัย"รัก"นางละเวง...ตามคำกลอนที่"สุนทรภู่"ประพันธ์ไว้

" พระสวมกอดแอบแนบถนอม
งามละม่อมแม่อย่าหมองเลยน้องเอ๋ย
สักแสนปีมิได้ร้างให้ห่างเชย
ไม่ละเลยลืมสัตย์ปฏิญาณ
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้เกิดในใต้ฟ้าสุธาธาร
ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา
แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ
พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา
เชยผกา โกสุม ปทุมทอง
เจ้าเป็นถ้ำอำไพขอให้พี่
เป็นราชสีห์สิงสู่เป็นคู่สอง
จะติดตามทรามสงวนนวลละออง
เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป
เป็นสัจจังหวังจิตสนิทถนอม
งามละม่อมมิ่งขวัญอย่าหวั่นไหว
จงโอนอ่อนผ่อนตามความอาลัย
ให้ชื่นใจเสียรู้แล้วเถิดแก้วตา"
      โชคดีที่พระฤาษีแห่งเกาะแก้วพิสดาร มาแก้อาถรรพ์ยาเสน่ห์ พร้อมเทศนาไกล่เกลี่ยให้ทั้งหมดละความอาฆาตพยาบาทและคืนดีกัน ทำให้นางละเวง ตัดสินใจยกบัลลังค์ให้ราชบุตร แล้วไปบวชพร้อมนางสุวรรณมาลี เพื่อรับใช้พระอภัยมณี ณ เขาสิงคุตร์
      และ"คำมั่นสัญญา"...นั้นก็คือคำมั่นที่พระอภัยบอกกับนางละเวง..ก่อนออกบวชทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

ฉันจึงมาหาความหมาย

มีบทเพลงที่ประทับใจและอยากให้คนรุ่นใหม่ได้ลองใช้วิจารณญาณดู
บทนั้นก็คือ
เพลงเถื่อนแห่งสถาบัน

หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อของ "ฉันจึงมาหาความหมาย"
ของท่าน วิทยากร เชียงกูล
ดอกหาง นกยูง สีแดงฉาน
บานอยู่เต็มฟากสวรรค์
คนเดินผ่าน ไปมากัน
เขาด้นดั้น หาสิ่งใด>

ปัญญา มีขาย ที่นี่หรือ
จะแย่งซื้อ ได้ที่ไหน
อย่างที่โก้ หรูหรา ราคาเท่าใด
จะให้พ่อ ขายนา มาแลกเอา

ฉันมา ฉันเห็น ฉันแพ้
ยินแต่ เสียงด่า ว่าโง่เง่า
เพลงที่นี่ ไม่หวาน เหมือนบ้านเรา
ใครไม่เข้า ถึงพอ เขาเยาะเย้ย

นี่จะให้ อะไร กันบ้างไหม
มหาวิทยาลัย ใหญ่โตเหวย
แม้นท่าน มิอาจให้ อะไรเลย
วานนิ่งเฉย อย่าบ่น อย่าโวยวาย

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง
ฉันจึง มาหา ความหมาย
ฉันหวัง เก็บอะไร ไปมากมาย
สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว

มืดจริงหนอ สถาบัน อันกว้างขวาง
ปล่อยฉัน อ้างว้าง ขับเคี่ยว
เดินหา ซื้อปัญญา จนหน้าเซียว
เทียวมา เทียวไป ไม่รู้วัน

>ดอกหาง นกยูง สีแดงฉาน
บานอยู่เต็ม ฟากสวรรค์
เกินพอ ให้เจ้า แบ่งปัน
จงเก็บกัน อย่าเดิน ผ่านเลยไป